ปลาตะเพียนต้มเค็ม
ช่วง นี้อยู่กรุงเทพฯแล้วใจคอไม่ค่อยดี "เจ๊แซบ" เลยแอบหนีบิ๊กบอสเข้าป่า หันหน้าเข้าหาธรรมชาติ พร้อมกับหาของอร่อยๆหม่ำให้หนำใจ เป็นอาหารไทยหน้าตาบ้านๆ รสชาติจัดจ้านตามสไตล์คนเมืองกาญจน์ ชื่อร้าน "ชนบท" ของ "คุณลุงสันติ" และ "ป้าติ๋ม" สองสามีภรรยาผู้หลงใหลในความสุขสงบของวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย สบายๆ แบบไทยแท้ๆ กินแค่พอมี ทำแค่พออยู่ นโยบายชีวิตแบบเดียวกับ 'เจ๊แซบ' เป๊ะ! มีเท่าไหร่ ใช้เท่านั้น ไม่เคยคิดว่าชีวิตที่มีน้อยใช้น้อยจะบ่งบอกถึงความเป็น 'ไพร่' แต่อย่างใด!
นํ้า พริกมะขามรสแซบ
"ชื่อ ร้านชนบทลุงตั้งขึ้นมาเอง คุณลุงเป็นคนคิด เพราะว่ามันเรียกง่ายดี แล้วมันเข้ากับเราด้วย ลุงเขาคิดชื่อร้านแล้วก็แต่งร้านเองด้วยนะคะ เขาเป็นสถาปนึก (ฮา)" ป้าติ๋มพูดถึงลุงสันติอย่างอารมณ์ดี
ร้านชนบท เป็นร้านอาหารขนาดไม่ ใหญ่ ตั้งอยู่ระหว่างทางไปทองผาภูมิ ถึงแม้หน้าร้านไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ รสชาติ อาหารโดดเด้งโดนใจ จนกลายเป็นร้านขวัญใจของขาโซ้ยจากทั่วทุกสารทิศ ต่างติดอกติดใจในความถึงพริกถึงขิง เผ็ดจริง แซบจริง จากรสมือของป้าติ๋ม ที่ใส่เครื่องแบบไม่ยั้ง ถ้าไม่ถึงใจป้าติ๋ม ไม่เสิร์ฟ!!
"ป้าชอบทำ กับข้าวค่ะ สูตรอาหาร ที่นี่ เราก็คิดกันเองในบ้าน ป้ากับลุง แล้ว ก็ลูกๆ จากตอนแรกป้าไม่ชอบทำอาหารนะ เราเป็นช่างเสริมสวยมาก่อน แต่ตอนหลังๆมาหัดทำ แล้วก็แจกเพื่อนๆ เขาก็บอกว่าอร่อย ทำอะไรให้กินก็ชอบ เขาก็บอกให้มาเปิดร้านอาหาร ป้าก็เลยเปิดอยู่ที่นี่มาตลอด ตอนแรกป้าเริ่มทำน้ำพริกก่อนค่ะ น้ำพริกมะขามกุ้งแห้ง ตอนเปิดร้านใหม่ๆ ก็ยังไม่ค่อยมีคนนะคะ แต่พอมีคนเริ่มมากิน เค้าก็ไปบอกกันปากต่อปาก ตอนนี้คนก็เริ่มรู้จักกันมากขึ้นค่ะ" ร้านชนบทเปิดมาตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2535 จนถึงวันนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 18 อย่างเข้มแข็ง
เมนูแรกที่ กระแทกใจเจ๊อย่างแรงตั้ง แต่คำแรกที่เข้าปาก "น้ำพริกมะขาม" สูตรเฉพาะของทางร้าน ป้าติ๋ม ใช้มะขามอ่อนกำลังดี ไม่มีเม็ด ไม่ฝาด รสชาติกำลังอร่อย พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนเปรี้ยวปาก ช่วงหน้ามะขามป้าติ๋มจะซื้อมาเก็บไว้สำหรับขายทั้งปี
หลังจากคัด มะขามอ่อนกำลังดี จะนำมาล้างทำความสะอาด และบดเก็บไว้ จากนั้นค่อยทยอยออกมาผัดกับพริกขี้หนูสด กระเทียม กุ้งแห้ง หมูสามชั้นบด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ผัดจนเข้ากัน ป้าติ๋ม จะผัดเครื่องปรุงทุกสิ่งอย่างจนเข้ากัน และแห้งได้ ที่รสชาติกลมกล่อม เวลาเคี้ยวยังมีกลิ่นหอมของมะขามอ่อนติดอยู่ที่โคนลิ้น กินกับผักสด สมุนไพรตามฤดูกาล
ไข่ เจียวไข่มดแดง
น้ำพริก มะขามป้าติ๋มเป็นที่นิยมชมชอบของเหล่า ขาโซ้ยขาประจำ บางคนสั่งซื้อหลายกิโลแล้วหอบหิ้วไปให้ลูกหลานที่อยู่ต่างประเทศ ถึงบ้านโดนโยนทิ้งที่สนามบินบ้าง แต่ก็ยอมเสี่ยงเพื่อความแซบ (ฮา) อีกหนึ่งเมนูที่อยู่คู่ร้านมาแสนนาน มาทุกครั้งต้องหม่ำทุกที คือ "ปลาตะเพียนต้มเค็ม" ป้าติ๋ม ใช้ปลาตะเพียนจากชัยนาท เลือกตัวใหญ่ ไซส์พิเศษ เน้นเนื้อเยอะไว้ก่อน เพราะหลังจากต้มนานๆน้ำตาลจะรัดตัวปลาให้เล็กลง ก่อนนำปลาลงต้มในหม้อ ป้าติ๋มจะใช้อ้อยทุบให้แบนๆ แล้ววางไว้ที่ก้นหม้อ จากนั้นใส่กระเทียม พริกไทย และขิงแก่ ก่อนจะวางปลาตะเพียนที่ผ่านการล้างอย่างสะอาดเอี่ยมไว้เป็นชั้นๆ แล้วโรยเกลือลงไปบนตัวปลาก่อนจะใส่น้ำและปิดฝาต้มจนมีฟองดำๆลอยขึ้นมาก็ช้อน ทิ้ง แล้วก็ต้ม...ต้ม...และต้มจนเกล็ดปลาเริ่มพอง ป้าติ๋มจะใส่น้ำตาลปี๊บ และเคี่ยวไฟอ่อนๆไปเรื่อยๆจนน้ำงวด ค่อยใส่ส้มมะขามเปียก และเคี่ยวต่ออีกประมาณ 3-4 วัน เคี่ยวจนก้างปลานิ่ม หม่ำได้ทั้งตัว ไม่ต้องกลัวก้างทิ่มคอ (หุหุ)
ปลา ทอดมันเคี้ยวหนึบ
ปลา ตะเพียนต้มเค็มเป็นเมนูฮอตสุดฮิตที่ติด อกติดใจขาโซ้ยรุ่นใหญ่ที่ไม่นิยมเคี้ยวของเหนียวให้เมื่อยเหงือก ขาหม่ำท่านใดอยากเอาใจว่าที่พ่อตา แม่ยาย หรือซื้อไปฝากบิดา มารดา อย่ารอช้ารีบมาสอยด่วน ป้าติ๋มทำจำนวนจำกัด!!
นอกจากน้ำพริกมะขาม และปลาตะเพียนต้มเค็มแล้ว ร้านชนบทยังมีอีกหลากหลายเมนูคู่ร้านจัดจ้านจี๊ดใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น "แกงหมูพริกขี้หนู และแกงเนื้อพริกขี้หนู" หม่ำคู่กับโรตีกรอบนอกนุ่มใน "ทอดมันปลากราย" เนื้อเหนียวนุ่ม ปลาสด รสดี ไม่มีกลิ่นคาว "แกง เลียง" เมนูซด รสเข้มข้น คนรักสุขภาพห้ามพลาด สำหรับขาหม่ำรุ่นจูเนียร์ที่มากับมามี้แอนด์ แดดดี๊ เจ๊แนะนำ "ปลารากกล้วยทอด" เมนูทาน ง่าย ได้แคลเซียม เหมาะกับเด็กกำลังโต (หุหุ)
คุณลุง สันติและคุณป้าติ๋ม
ขาหม่ำขาโซ้ยที่กำลังมองหาสถานที่สงบ หลบจากความวุ่นวายในกรุงเทพฯ เจ๊แนะนำให้ขับรถชิลล์ๆมาที่จังหวัดกาญจนบุรี มานอนเล่นริมแม่น้ำไทรโยค และขับรถมาหม่ำอาหารไทยที่เน้นความจริงใจ "ร้านชนบท" ตั้งอยู่บนถนนเส้นทองผาภูมิ สังขละ ระหว่างกิโลเมตรที่ 95 และ 96 ร้านเปิดบริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ร้านลุงกับป้ามีโต๊ะไม่มาก ถ้าอยากจองโต๊ะหรือสั่งอาหารไว้ล่วงหน้า โทร.มาได้ที่เบอร์ 08-9992-8731 และ 0-3468-4251
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของร้านชนบท คือ จะมีที่ก่อไฟไว้กลางร้าน ทุกเย็นลุงสันติจะจุดไฟให้ความสว่างและไล่แมลงไปในคราวเดียวกัน ลุงตั้งชื่อว่า "ไฟชนบท" เป็นสัญลักษณ์ของร้านที่คุณลุงภูมิใจ และไม่เคยคิดว่าการอยู่ห่างไกลกรุงเทพฯ จะทำให้ตัวเองแตกต่างจากคนไทยคนอื่น
หลังจากที่ 'เจ๊แซบ' ได้คุยกับลุงสันติและป้าติ๋มในวันนี้ ทำให้เจ๊นึกถึงตัวเอง ในฐานะที่เป็นคนไทยตัวเล็กๆ ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย โคตรเหง้าไม่ได้อยู่ในชนชั้นปกครอง ไม่มีใครเป็นอำมาตย์ หรือเป็นใหญ่เป็นโต แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองต่ำต้อยด้อยค่า ถึงแม้จะมีคนไทยบางคนมายุแยงให้ระแวงคนไทยกันเอง แต่ก็ไม่เคยหวั่นไหว มั่นใจว่าบนแผ่นดินไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่มีใครยัดเยียดความเป็น "ไพร่" ให้เรา นอกจากตัวเราเอง...
ช่วง นี้อยู่กรุงเทพฯแล้วใจคอไม่ค่อยดี "เจ๊แซบ" เลยแอบหนีบิ๊กบอสเข้าป่า หันหน้าเข้าหาธรรมชาติ พร้อมกับหาของอร่อยๆหม่ำให้หนำใจ เป็นอาหารไทยหน้าตาบ้านๆ รสชาติจัดจ้านตามสไตล์คนเมืองกาญจน์ ชื่อร้าน "ชนบท" ของ "คุณลุงสันติ" และ "ป้าติ๋ม" สองสามีภรรยาผู้หลงใหลในความสุขสงบของวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย สบายๆ แบบไทยแท้ๆ กินแค่พอมี ทำแค่พออยู่ นโยบายชีวิตแบบเดียวกับ 'เจ๊แซบ' เป๊ะ! มีเท่าไหร่ ใช้เท่านั้น ไม่เคยคิดว่าชีวิตที่มีน้อยใช้น้อยจะบ่งบอกถึงความเป็น 'ไพร่' แต่อย่างใด!
นํ้า พริกมะขามรสแซบ
"ชื่อ ร้านชนบทลุงตั้งขึ้นมาเอง คุณลุงเป็นคนคิด เพราะว่ามันเรียกง่ายดี แล้วมันเข้ากับเราด้วย ลุงเขาคิดชื่อร้านแล้วก็แต่งร้านเองด้วยนะคะ เขาเป็นสถาปนึก (ฮา)" ป้าติ๋มพูดถึงลุงสันติอย่างอารมณ์ดี
ร้านชนบท เป็นร้านอาหารขนาดไม่ ใหญ่ ตั้งอยู่ระหว่างทางไปทองผาภูมิ ถึงแม้หน้าร้านไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ รสชาติ อาหารโดดเด้งโดนใจ จนกลายเป็นร้านขวัญใจของขาโซ้ยจากทั่วทุกสารทิศ ต่างติดอกติดใจในความถึงพริกถึงขิง เผ็ดจริง แซบจริง จากรสมือของป้าติ๋ม ที่ใส่เครื่องแบบไม่ยั้ง ถ้าไม่ถึงใจป้าติ๋ม ไม่เสิร์ฟ!!
"ป้าชอบทำ กับข้าวค่ะ สูตรอาหาร ที่นี่ เราก็คิดกันเองในบ้าน ป้ากับลุง แล้ว ก็ลูกๆ จากตอนแรกป้าไม่ชอบทำอาหารนะ เราเป็นช่างเสริมสวยมาก่อน แต่ตอนหลังๆมาหัดทำ แล้วก็แจกเพื่อนๆ เขาก็บอกว่าอร่อย ทำอะไรให้กินก็ชอบ เขาก็บอกให้มาเปิดร้านอาหาร ป้าก็เลยเปิดอยู่ที่นี่มาตลอด ตอนแรกป้าเริ่มทำน้ำพริกก่อนค่ะ น้ำพริกมะขามกุ้งแห้ง ตอนเปิดร้านใหม่ๆ ก็ยังไม่ค่อยมีคนนะคะ แต่พอมีคนเริ่มมากิน เค้าก็ไปบอกกันปากต่อปาก ตอนนี้คนก็เริ่มรู้จักกันมากขึ้นค่ะ" ร้านชนบทเปิดมาตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2535 จนถึงวันนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 18 อย่างเข้มแข็ง
เมนูแรกที่ กระแทกใจเจ๊อย่างแรงตั้ง แต่คำแรกที่เข้าปาก "น้ำพริกมะขาม" สูตรเฉพาะของทางร้าน ป้าติ๋ม ใช้มะขามอ่อนกำลังดี ไม่มีเม็ด ไม่ฝาด รสชาติกำลังอร่อย พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนเปรี้ยวปาก ช่วงหน้ามะขามป้าติ๋มจะซื้อมาเก็บไว้สำหรับขายทั้งปี
หลังจากคัด มะขามอ่อนกำลังดี จะนำมาล้างทำความสะอาด และบดเก็บไว้ จากนั้นค่อยทยอยออกมาผัดกับพริกขี้หนูสด กระเทียม กุ้งแห้ง หมูสามชั้นบด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ผัดจนเข้ากัน ป้าติ๋ม จะผัดเครื่องปรุงทุกสิ่งอย่างจนเข้ากัน และแห้งได้ ที่รสชาติกลมกล่อม เวลาเคี้ยวยังมีกลิ่นหอมของมะขามอ่อนติดอยู่ที่โคนลิ้น กินกับผักสด สมุนไพรตามฤดูกาล
ไข่ เจียวไข่มดแดง
น้ำพริก มะขามป้าติ๋มเป็นที่นิยมชมชอบของเหล่า ขาโซ้ยขาประจำ บางคนสั่งซื้อหลายกิโลแล้วหอบหิ้วไปให้ลูกหลานที่อยู่ต่างประเทศ ถึงบ้านโดนโยนทิ้งที่สนามบินบ้าง แต่ก็ยอมเสี่ยงเพื่อความแซบ (ฮา) อีกหนึ่งเมนูที่อยู่คู่ร้านมาแสนนาน มาทุกครั้งต้องหม่ำทุกที คือ "ปลาตะเพียนต้มเค็ม" ป้าติ๋ม ใช้ปลาตะเพียนจากชัยนาท เลือกตัวใหญ่ ไซส์พิเศษ เน้นเนื้อเยอะไว้ก่อน เพราะหลังจากต้มนานๆน้ำตาลจะรัดตัวปลาให้เล็กลง ก่อนนำปลาลงต้มในหม้อ ป้าติ๋มจะใช้อ้อยทุบให้แบนๆ แล้ววางไว้ที่ก้นหม้อ จากนั้นใส่กระเทียม พริกไทย และขิงแก่ ก่อนจะวางปลาตะเพียนที่ผ่านการล้างอย่างสะอาดเอี่ยมไว้เป็นชั้นๆ แล้วโรยเกลือลงไปบนตัวปลาก่อนจะใส่น้ำและปิดฝาต้มจนมีฟองดำๆลอยขึ้นมาก็ช้อน ทิ้ง แล้วก็ต้ม...ต้ม...และต้มจนเกล็ดปลาเริ่มพอง ป้าติ๋มจะใส่น้ำตาลปี๊บ และเคี่ยวไฟอ่อนๆไปเรื่อยๆจนน้ำงวด ค่อยใส่ส้มมะขามเปียก และเคี่ยวต่ออีกประมาณ 3-4 วัน เคี่ยวจนก้างปลานิ่ม หม่ำได้ทั้งตัว ไม่ต้องกลัวก้างทิ่มคอ (หุหุ)
ปลา ทอดมันเคี้ยวหนึบ
ปลา ตะเพียนต้มเค็มเป็นเมนูฮอตสุดฮิตที่ติด อกติดใจขาโซ้ยรุ่นใหญ่ที่ไม่นิยมเคี้ยวของเหนียวให้เมื่อยเหงือก ขาหม่ำท่านใดอยากเอาใจว่าที่พ่อตา แม่ยาย หรือซื้อไปฝากบิดา มารดา อย่ารอช้ารีบมาสอยด่วน ป้าติ๋มทำจำนวนจำกัด!!
นอกจากน้ำพริกมะขาม และปลาตะเพียนต้มเค็มแล้ว ร้านชนบทยังมีอีกหลากหลายเมนูคู่ร้านจัดจ้านจี๊ดใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น "แกงหมูพริกขี้หนู และแกงเนื้อพริกขี้หนู" หม่ำคู่กับโรตีกรอบนอกนุ่มใน "ทอดมันปลากราย" เนื้อเหนียวนุ่ม ปลาสด รสดี ไม่มีกลิ่นคาว "แกง เลียง" เมนูซด รสเข้มข้น คนรักสุขภาพห้ามพลาด สำหรับขาหม่ำรุ่นจูเนียร์ที่มากับมามี้แอนด์ แดดดี๊ เจ๊แนะนำ "ปลารากกล้วยทอด" เมนูทาน ง่าย ได้แคลเซียม เหมาะกับเด็กกำลังโต (หุหุ)
คุณลุง สันติและคุณป้าติ๋ม
ขาหม่ำขาโซ้ยที่กำลังมองหาสถานที่สงบ หลบจากความวุ่นวายในกรุงเทพฯ เจ๊แนะนำให้ขับรถชิลล์ๆมาที่จังหวัดกาญจนบุรี มานอนเล่นริมแม่น้ำไทรโยค และขับรถมาหม่ำอาหารไทยที่เน้นความจริงใจ "ร้านชนบท" ตั้งอยู่บนถนนเส้นทองผาภูมิ สังขละ ระหว่างกิโลเมตรที่ 95 และ 96 ร้านเปิดบริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ร้านลุงกับป้ามีโต๊ะไม่มาก ถ้าอยากจองโต๊ะหรือสั่งอาหารไว้ล่วงหน้า โทร.มาได้ที่เบอร์ 08-9992-8731 และ 0-3468-4251
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของร้านชนบท คือ จะมีที่ก่อไฟไว้กลางร้าน ทุกเย็นลุงสันติจะจุดไฟให้ความสว่างและไล่แมลงไปในคราวเดียวกัน ลุงตั้งชื่อว่า "ไฟชนบท" เป็นสัญลักษณ์ของร้านที่คุณลุงภูมิใจ และไม่เคยคิดว่าการอยู่ห่างไกลกรุงเทพฯ จะทำให้ตัวเองแตกต่างจากคนไทยคนอื่น
หลังจากที่ 'เจ๊แซบ' ได้คุยกับลุงสันติและป้าติ๋มในวันนี้ ทำให้เจ๊นึกถึงตัวเอง ในฐานะที่เป็นคนไทยตัวเล็กๆ ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย โคตรเหง้าไม่ได้อยู่ในชนชั้นปกครอง ไม่มีใครเป็นอำมาตย์ หรือเป็นใหญ่เป็นโต แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองต่ำต้อยด้อยค่า ถึงแม้จะมีคนไทยบางคนมายุแยงให้ระแวงคนไทยกันเอง แต่ก็ไม่เคยหวั่นไหว มั่นใจว่าบนแผ่นดินไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่มีใครยัดเยียดความเป็น "ไพร่" ให้เรา นอกจากตัวเราเอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น